สวัสดีครับบบ 🙂
วันนี้มาต่อจากคราวที่แล้วกันนะครับ จากเมื่องครั้งที่แล้วถึงห้อง เกียรติยศแผ่นดินสยาม วันนี้เรามาเริ่มกันที่ห้อง เรืองนามมหรสพศิลป์ เป็นห้องที่จัดแสดงในด้านศิลปะการแสดง และมหรสพต่าง ๆที่เกิดขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ อาทิเช่น การเชิดหนังใหญ่ โขน รำ และหุ่นต่างๆ ห้องนี้ได้มีการจัดแสดงหัวโขนและตัวละครลักษณะต่างๆ รวมถึงมีสื่อประกอบในการเรียนรู้ภาษาท่าทางโขนกับ 4 ตัวละครหลัก ได้แก่ ตัวพระ ยักษ์ นาง และลิง นอกจากนี้ยังมีมุมน่ารักๆ ที่ให้ผู้ชมได้ร่วมสนุกนั่นก็คือมุมเจ้าจุกเจ้าแกละ ที่เป็นตัวละครหุ่นกระบอกไว้ให้เด็กๆได้เชิดเล่นกัน และก็จะมีห้องโถงอีกห้องหนึ่งในส่วนเดียวกันที่มีผนังห้องเป็นจอภาพรอบห้อง 360 องศา ที่สื่อถึงงานมหรสพสมโภชน์ต่างๆ ในรูปแบบแอนิเมชั่น เบื่อกันหรือยังครับผ่านมาเกือบครึ่งทาง แต่อย่าพึ่งเบื่อครับยังมีอะไรสนุกๆ ให้ทำกันอีกครับในห้องต่อไปที่มีชื่อว่า เยี่ยมยลถิ่นกรุง เป็นห้องที่แนะนำว่าบนเกาะรัตนโกสินทร์แห่งนี้มีที่เที่ยวที่ไหนบ้างที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเที่ยวหรือเรื่องอาหารการกิน แต่ที่บอกว่ามีอะไรให้ทำสนุกๆในห้องนี่้ก็คือว่าจะมีเจ้าหน้าที่ชวนให้ถ่ายรูปกับกล้องโบราณรูปร่างแปลกประหลาดไม่เคยเห็นมาก่อน พอถ่ายเสร็จก็จะมีห้องที่จัดแสดงเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวแต่ที่น่าสนใจและเป็นจุดเด่นของห้องนี้ก็คือหน้าจอใหญ่ที่มีการ์ตูนแอนิเมชั่นที่มีใบหน้าเป็นหน้าเราตามที่ได้ถ่ายรูปไปแล้ว เป็นสิ่งที่เรียกเสียงหัวเราะขำขันของผู้พบเห็น( แต่สำหรับห้องนี้ผมไม่ได้เป็นคนโดนถ่ายแต่เพื่อนผมเป็นคนโดนถ่าย 555+) พอสนุกสนานกันพอควร พี่เจ้าหน้าที่ก็พาไปที่ห้องต่อไปมีชื่อว่า ลือระบิลพระราชพิธี ซึ่งพระราชพิธีก็คือธรรมเนียมปฏิบัติที่ยิ่งใหญ่และสืบทอดต่อกันมาเป็นเวลาช้านานโดยพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์เป็นผู้สืบทอดและรักษา โดยเฉพาะพิธีมงลคจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ที่เป็นพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของชาวนาหรือเกษตรกรไทยผู้เป็นกระดูกสันหลังของชาติ เป็นการปลุกขวัญกำลังใจของพี่น้องชาวนาไทย และยังมีคำทำนายว่าพระโคกินอะไรจะเป็นอย่างไรซึ่งก็เป็นเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพระยุหยาตราทางชลมารคที่เป็นพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่ตระกาลตามาก เมื่อเสร็จกันแล้วก็มาถึงห้องสุดท้ายที่มีชื่อว่า สง่าศรีสถาปัตยกรรม ที่แสดงรปูแบบสิ่งก่อสร้างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัง วัดหรือบ้านในสมัยก่อนจนเปลี่ยนแปลงมาถึงในยุคปัจจุบัน ที่ได้รับเอาวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาผสมผสานกับวัฒนธรรมไทยได้อย่างลงตัวและงดงามอย่างยิ่ง และที่น่าสนุกยิ่งไปกว่านั้นคือมีของเล่นสนุกๆ คือ การบังคับรถ เรือและรถลากที่ต้องใช้ม้า เพื่อชมบรรยากาศผ่านหน้าจอเกม ก็เป็นเกมที่สนุกไม่แพ้เกม Wii เลยทีเดียว และนอกจากส่วนของนิทรรศการแล้วก็ยังมีในส่วนเบ็ดเตล็ดอื่นๆ ก็เล่ามาจนเกือบหมดเปลือกแล้วนะครับ สำหรับใครที่สนใจอยากจะมาชมและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศไทยสไตล์ไฮเทคพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ดีเยี่ยมไม่น่าเบื่อก็ลองมากันได้นะครับ สำหรับค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 200 บาทเด็ก(สูงไม่เกิน 110 ซม. ) คนละ 50 บาท สำหรับนักเรียน นักศึกษา (ในเครื่องแบบหรือแสดงบัตร) พระภิกษุ นักบวช ผู้สูงอายุ และคนพิการเข้าชมฟรี วันและเวลาทำการ จะเปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ อังคาร-ศุกร์ 11.00-20.00 น. เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00-20.00 น. เปิดให้เข้าชมเป็นรอบ ทุกๆ 20 นาที รอบสุดท้ายเวลา 18.20 น.สำหรับการเดินทาง รถปรับอากาศพิเศษ – สาย ปอ.พ.10-1, ปอ.พ.10-2, ปอ.พ.10-3
รถปรับอากาศ – สาย ปอ.12, ปอ.44, ปอ.59, ปอ.60, ปอ.70, ปอ.79, ปอ.157, ปอ.171
ปอ.185, ปอ.201, ปอ.503, ปอ.511, ปอ.509
รถธรรมดา – สาย 2, 3, 9, 12, 15, 31, 33, 35, 39, 42, 44, 47, 59, 60 64, 68, 70,79, 82, 86, 169,201 ขอบคุณครับ…