พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทEร่วมสมัE *** 2

สวัสดีครับบบบบ:)
  

   ก็พบกับผมอีกเช่นเคย วันนี้ยังคงไม่จบกับเรื่อง พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย สำหรับนี้เป็น PART 2 ผมก็อธิบายไม่ถูกอะครับว่าจะไปส่วนไหนดีก่อน เอาเป็นว่าไปส่วนที่ผมไปชมก็แล้วกันนะครับบ ^ ^  จากเมื่อครั้งที่แล้วยังอยู่กันที่ชั้นล่างสุดวันนี้เดินขึ้นบันไดไปอีกชั้นคับ พอเดินขึ้นมาก็จะพบกับความตะลึงอึงกับผลงานศิลปะมากมายก่ายกอง พร้อมกับตามทางก็จะมี รูปปั้นอาร์ต(ไม่ทราบว่าตัวอะไรคับ > <“) แต่ผลงานศิลปะมากมายที่ประดับบนผืนกำแพงนั้นมีหลายรูปแบบ ซึ่งทุกแบบก็ล้วนแต่สื่ออารมร์ของศิลปินที่พยายามจะถ่ายทอดสู่คนชมศิลปะ แต่ละภาพก็จะมีการถ่ายทอดความรู้สึกแตกต่างกันมีทั้งที่ออกมาจากจินตนาการของศิลปินเองและเป็นสิ่งที่ศิลปินได้ประสบพบเจอ เช่น การวาดภาพธรรมชาติ ซึ่งในภาพธรรมชาติ ก็จะมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไปทั้งธรรมชาติทีสวยงาม วิวทิวทัศน์บก ทิวทัศน์ทะเล ภัยธรรมชาติ และความเสียหายของธรรมชาติและนอกจากธรรมชาติก็จะมี ประเพณีและวิถีชีวิต เช่นการทำสวนทำนา และนอกจากประเพณีแล้วก็ยังมีด้านความเชื่อเรื่องศาสนาพุทธที่มีความผูกพันธ์กับคนไทยอย่างลึกซึ้ง โดยผลงานที่เกี่ยวกับด้านนี้จะเป็นแนวการวาดของท่านอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่วาดเกี่ยวกับศาสนา เทพเจ้าสวรรค์ โดยจะใช้สีโทนสีฟ้า ขาว ทอง ให้ความรู้สึกสงบ เย็นสบายตา ซึ่งแนวการวาดของท่านอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จะแตกต่างกันแนวการวาดของท่านอาจารย์ ถวัลย์ ดัชนี (ดังที่ได้กล่าวเมื่อตอนแรกกันแล้วคับ)และที่ผมชอบก็คงจะเป็นลวดลายไทยที่มีความอ่อนช้อยงดงาม แต่ผลงานของศิลปินทั้งสองท่านก็ล้วนแต่สื่อความเป็นไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่มีชาติใดเหมือน และไม่เหมือนชาติใดในโลกนี้ 
  

 

 

 

    ภาพนี้เป็นภาพที่มีเทคนิคการสร้างที่แปลกตาไปกว่าผลงานชิ้นอื่นๆ ตรงที่เป็นการนำเศษไม้จริงง มาตัดให้เป็นชิ้นแล้วนำมาเรียงต่อกันเป็นสะพานไม้แล้วจึงทาสี ให้ความรู้สึกว่าภาพมีมิติมากขึ้น เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมของศิลปินจริงคับ


  

   

 

 

 

 

 

 

ภาพเหล่านี้เป็นภาพที่ให้อารมณ์มากครับ ในความรู้สึกของผมนั้นเป็นการสื่อถึงความหลากหลายสิ่งมีชีวิต ที่อยู่ในระบบนิเวศน์ที่แตกต่างกันและความสำคัญของน้ำดังที่จะเห็นในภาพว่า สัตว์ที่มีลำตัวออกมานอกบริเวณที่มีน้ำจะเหลือเพียงกระดูก เป็นการสื่อความหมายของศิลปินที่ใช้ความรู้+จินตนาการ และอีกภาพ(ล่าง) ก็สื่อถึงสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ที่เรามองเห็นได้ แต่ละภาพล้วนแต่สวยงามมากคับ

 


  

 

 

 

 

 

 

    ภาพเหล่านี้ก็คล้ายๆกับชุดที่แล้ว แต่แตกต่างกันที่แรงบันดาลใจของศิลปินที่น่าจะมีแรงบันดาลใจมาจากไข่เพียงใบเดียว ที่หลายคนมองว่าเป็นไข่ธรรมดาใบหนึ่งแต่สำหรับศิลปินแล้วสิ่งรอบตัวคือศิลปะที่รอการแต่งเติมสร้างสรรค์ให้มีความสวยงามและแตกต่างจากเดิม สิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของศิลปินคับ ซึ่ง 2 ภาพนี้ก็เป็นภาพที่แปลกและสวยงามเกินคำบรรยายคับ
  

    มาถึงภาพชุดนี้เป็นการใช้เทคนิคการปัดปลายพู่กัน เพื่อให้ภาพดูมีทั้งการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและรวมถึงความน่ากลัววังเวง (ไม่ใช่ผมถ่ายภาพไม่ชัดหรือภาพมัวนะครับ) แต่มันเป็นการใช้เทคนิค เมื่อดูแล้วก็รู้สึกขนลุกประมาณว่า บ้านผีสิงอะคับ น่ากลัว ๐_O แต่ก็สวยคับ 
    พี่วิทยากรที่นำชมบอกว่าภาพแต่ละภาพนั้นมาจากความรู้สึกที่แท้จริงของศิลปิน ที่จะพยายามถ่ายทอดให้คนชมรู้สึกเช่นเดียวกัน และภาพแต่ละภาพนั้นก็ไม่ได้ใช้เวลาเพียงนิดเดียวถึงจะเสร็จ บางภาพใช้เวลาเป็นเดือน บางภาพใช้เวลาเป็นปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์มาเป็นผลงานที่เราได้ชมกันทุกภาพล้วนแต่มีความตั้งใจของศิลปินแฝงอยู่ และภาพทุกภาพก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะไทยที่น่าชื่นชมและน่ารักษาไว้ให้คงอยู่ เพราะศิลปะไทยนั้นเป็นศิลปะที่มีความประณีตงดงามอ่อนช้อย ทุกกระเบียดนิ้ว คนไทยทุกคนก็ควรที่จะตระหนักรักษ์ศิลปะไทย ไม่ให้ศิลปะไทยเสื่อมสูญไปจากคนไทย ให้คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน ให้นานาอารยประเทศยอมรับในความเป็นผู้นำทางความเจริญด้านศิลปะวัฒนธรรมของไทย ว่าประเทศไทยก็ไม่เป็นสองรองใครในเรื่องศิลปะ และสุดท้ายนี้ผมก็ขอจบด้วยคำว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้”(คำกล่าวของ อัลเบิร์ต ไอสไตน์) 😀

 

พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทEร่วมสมัE ***

สวัสดีครับบบบบบ 😛

      พบกับผมอีกครั้งกับเรื่องใหม่… สำหรับวันนี้ผมอาจพาไปไกลหน่อยนิดนึงครับ วันนี้ผมจะพาไปชมพิพิธภัณฑ์ที่คล้ายๆกับหอศิลป์(หรืออาจจะใช่ก็ไม่ทราบ) นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ(THAI CONTEMPORARY ART MUSEUM)ไทยร่วมสมัย ตั้งอยู่ ณ อาคารเบญจจินดาถนนโลคัลเลียบขนานทางรถไฟและถนนวิภาวดี ตรงสี่แยกบางเขนฝั่งซ้ายมือ เป็นพิพิธภัณฑ์แบบปิด คือยังไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปชม แต่จะเปิดให้ชมเฉพาะเป็นหมู่คณะ ได้พิพิธภัณฑ์เป็นความคิดริเริ่มของ คุณบุญชัย เบญจรงคกุล ที่มีความชื่นชอบและคิดที่จะรวบรวมศิลปะไทยร่วมสมัยในยุคต่างๆและรวบรวมผลงานของศิลปินหลายท่าน แต่ตามจิงผมไม่ได้ตั้งใจไปหรอกคับ พอดีว่าเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2553 อาจารย์ได้พาผม เพื่อนและรุ่นพี่ ไปแข่งศิลปะที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่เผอิญยังไม่ถึงเวลาแข่งอาจารย์ก็เลยพาไปชม เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการวาดภาพส่วนแรกที่ผมได้ชมเป็นห้องจำลองเรือในพระราชพิธีกระบวนเรือพยุหยาตรา ทางชลมารค (แต่ผมไม่ได้เก็บภาพมาฝากนะคับ!!!) ส่วนต่อมาเป็นห้องแสดงผลงานทางศิลปะของท่านอาจารย์ ถวัลย์ ดัชนี ที่มี 2 ส่วนด้วยกันคับ แนวการสร้างผลงานของท่านอาจารย์ ถวัลย์ดัชนีเป็นแนว ร้อนแรงและเคร่งขรึม หรือเรียกว่า”นรก”ก็ว่าได้คับ เพราะโทนสีที่ใช่ส่วนใหญ่จะเป็นสีแดง ดำ ขาว ทอง ให้ความรู้สึกหดหู่ น่ากลัวน่าเกรงขาม โดยแต่ละส่วนจะแบ่งเป็นการวาดแบบลายเส้น(Drawing) และภาพสีน้ำมัน ภาพแต่ละภาพถึงจะดูน่ากลัวแต่ก็มีความงดงามแฝงอยู่ในความน่ากลัวนั้นคับเพราะไม่ว่าจะเป็นการใช้ลายเส้นและแสงเงาที่ทำให้ภาพดูมีมิติ มีชีวิต และการใช้การปิดทองคำเปลวแทนการใช้สีทองล้วนแล้วเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ของงานศิลปะไทย(แต่ผมไม่สามารถเก็บภาพได้คับเพราะเค้าห้ามถ่ายรูปในส่วนนี้ – – *และผมก็พึ่งทราบว่าการเก็บรักษาภาพศิลปะต้องควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมด้วยคับ) ส่วนที่สองที่ผมได้ชมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าส่วนอะไรคับ น่าจะเรียกว่า งานประติมากรรมลอยตัว เพราะเป็นการนำวัสดุธรรมชาติมาแกะสลักและปั้นให้เป็นผลงานทางศิลปะ เช่น การใช้ไม้มาสร้างเป็นบ้านเรือนไทยจำลอง และการนำดินมาปั้นเป็นคน ต้นไม้ และสิ่งต่างๆ ได้อย่างงดงาม เพราะจากไม้และดินที่ดูแข็งกระด้างไม่มีชีวิตนำมาทำเป็นผลงานศิลปะให้ดูมีชีวิตชีวาและอ่อนช้อยงดงาม เป็นเรื่องที่ยากมาก  สิ่งที่ปั้นก็แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย (เหมือนจิงมากกกกกกกกก) ถัดมาก็เป็นประติมากรรมเทพเจ้าที่คนไทยและคนอินเดียนับถือ เช่น พระพิฆเนศร์ พระศิวะ ฯลฯ และถัดไปก็เป็น ประติมากรรมที่เรียกว่าเป็น ปฏิมากรรมก็ว่าได้เพราะล้วนแล้วแต่เป็นการปั้นรูปเรื่องราวและตัวละครในวรรณคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องรามเกียรติ์เป็นวรรคดีไทยที่คนไทยรู้จักกันดี รูปปั้นแต่ละตัวก็จะจัดแสดงไว้ในตู้กระจำ มีทั้งที่เป็นตัวละครเดี่ยว และมีทั้งที่เป็นเรื่องราวโดยเฉพาะการสู้รบทำยุทธหัตถี ระหว่างฝ่ายยักษ์กับฝ่ายพระ เป็นปฏิมากรรมไทยที่สวยงามมากกกกกกกกกกกกกกกกคับ ผมคิดว่าทุกคนคงจะเมื่อยกันแร้ว(ผมก็เมื่อยคับ – -” ) ก็ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะครับแล้วจะพาทัวร์กันต่อให้ตอนหน้า บายคับ 😛

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ K|NG OF K|NG 7

 สวัสดีคร๊าบบบบบบบบบบบบ

อาม่า 1

อาม่า 2

      ก็มาถึงช่วงโค้งสุดท้าย ของภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติสักทีนะครับ นั่นคือเรื่อง “อาม่า” เป็นเรื่องสุดท้ายที่ผมได้ชมครับ เป็นเรื่องทีผมชมแล้วมีแต่รอยยิ้ม(ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มจนเหงือกแห้ง :D) อิ่มใจ ชมแล้วได้สาระประโยชน์ ความบันเทิงสนุกสนาน คนไทยทุกคนคงเคยได้ยิน(อาจเป็นต้องเคยได้ยินสิครับ )และต้องร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีกันได้ใช่มั๊ยครับบบ และก็ต้องรู้ว่ามีเพลงสรรเสริญพระบารมีไว้เพื่ออะไร เพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาเพื่อสรรเสริญ สดุดี และแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในโลก หรือ KING OFKING พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช ทรงเป็นที่สุดของพระมหากษัตริย์บนโลกใบนี้ก็ว่าได้ เพราะท่านทรงทำทุกอย่างเพื่อให้พสกนิกรชาวไทยและผู้ทีอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยทุกคนมีความสุข เลี้ยงชีพตนเองได้ ซึ่งผมเชื่อว่าไม่มีพระมหากษัตริย์องค์ใดในโลกทรงทำได้เช่นนี้ พระองค์ทรงงานหนักมาโดยตลอด ดังที่เราจะเห็นได้ในโทรทัศน์ พระบรมสาทิสลักษณ์ หรือแม้กระทั่งพระบรมฉายาลักษณ์ ก็จะเห็นภาพท่านทรงงานและมีหยดเหงื่อหลั่งไหลเหมือนสายน้ำ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าท่านทรงงานหนักเพื่อพวกเราแค่ไหน ท่านไม่เคยทอดทิ้งเราเลยสักนิด จะมีใครในโลกนี้มั๊ยที่จะเหนื่อยเหมือนท่าน ใครๆต่างก็บอกว่าคนไทยและคนที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยไม่ว่าจะมีเชื้อชาติใดทุกคนต่างก็โชคดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกที่ได้ใบบุญของท่าน เมื่อยามที่เราเดือดร้อน หรือมีความทุกข์ท่านก็จะคอยเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้เรา หยาดเหงื่อทุกหยดที่ไหลเหมือนสายน้ำทิพย์ที่ล่วงโรยมาจากฝากฟ้าของพระองค์ทำให้พสกนิกรชาวไทยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาสิ่งใดเปรียบ ทุกครั้งที่เราได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมีทุกคนต่างก็ต้องยืนตรงด้วยความเคารพ ผมก็ไม่แปลกใจเลยที่พระองค์ได้รับการยกย่องให้เป็น KING OF KING  ผมก็หวังว่าภาพยนตร์สั้นทั้ง 7 เรื่องนี้เมื่อคนไทยทุกคนดูแล้วต่างก็ต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและช่วยกันสานต่อความดีเพื่อความดี ให้ความดีนี้คงอยู่คู่คนไทยไปอีกนานนนนนนนนนนนแสนนนนนนนนนนนนนนานนะครับ (จบสักที…0_0)

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ K|NG OF K|NG 6

 สวัสดีคร๊าบบบบบบบบบบบบบ

จากฟ้าสู่ดิน 1

จากฟ้าสู่ดิน 2

     เจอกันอีกแล้วนะครับ เบื่อมั๊ยครับ อย่าพึ่งเบื่อครับเพราะผมนำเสนอแต่สิ่งที่น่าสนใจครับ (ไม่น่าสนใจไม่นำมาเสนอหรอกครับ!!!) นี่เป็นเรื่องที่ 6ครับที่ผมได้ชมสำหรับภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติ เรื่อง “จากฟ้าสู่ดิน” ครับ ทุกครั้งที่คุณกินข้าว คุณเคยรู้มั๊ยครับว่าข้าวแต่ล่ะเม็ดนั้นที่เราทานอยู่นั่นมาจากไหน แล้วรู้มั๊ยครับว่าใครเป็นคนผลิตมันขึ้นมา ถ้าคุณได้ชมภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้คุณจะหายสงสับทันทีครับ ข้าวที่เรากินอยู่ทุกวันนี้นะครับมาจากหยาดเหงื่อทุกหยดของ คนที่เราเรียกว่าหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินครับ ถูกต้องแล้วครับ!!! ชาวนาครับ ชาวนาก็เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของชาติครับ ที่เป็นผู้ทำให้ทุกคนได้มีข้าวรับประทานกันเพื่อดำรงชีวิตอยู่ เพราะฉะนั้นอาชีพชาวนา ถือเป็นอาชีพที่ได้รับการยกย่องนะครับ หากใครที่เคยดูหมิ่นดูแคลน อาชีพนี้เปลี่ยนทัศนคติซะใหม่นะครับ หากเราไม่มีชาวนาเราก็คงไม่มีข้าวไว้กิน เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ผมเข้าใจหัวอกคนเป็นชาวนานะครับ ว่าความเดือดร้อนของพวกเค้าเป็นอย่างไร เมื่อไม่มีน้ำก็ปลูกข้าวไม่ได้ พอน้ำท่วมที่นาก็เสียหาย นี่แหละครับคือความลำบากของชาวนา ไม่มีใครรู้่หรอกครับว่าน้ำจะท่วมหรือ น้ำจะแห้งแล้ง เมื่อที่นาเสียหายไม่มีอาชีพทำกิน ก็ต้องระหกระเหินเข้ามาทำงานในเมืองกรุงแต่หารู้ไม่ ในความคิดของผมนั้น ที่ทำงานในเมืองกรุงสำหรับคน ตจว.นั้น ก็เหมือนนรกดีๆนี่เอง เพราะถึงแม้จะทำงานหนักแต่ะก็ถูกนายจ้างโกงค่าแรง มีปากก็เหมือนไม่มีพูดไม่ได้พอพูดก็จะไล่ออก ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนในเมืองบางคนต้องคิดว่าคน ตจว. เป็นเหมือนคนไม่รู้เรื่อง รู้ราว ชอบเอารัดเอาเปรียบอยู่เรื่อย  แต่ชาวนาก็ยังมีในหลวงเป็นที่พึ่งอยู่เสมอ พระองค์ได้ทรงทำพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญทุกปีในวันพืชมงคล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้พี่น้องชาวนาทุกคนยิ้มสู้ ที่จะทำนาเพื่อให้ทุกคนในประเทศได้มีข้าวกิน หากวันนี้ใครที่กินข้าวไม่หมดเหลือทิ้งเหลือขว้าง ให้สำนึกในบุญคุณของชาวนาที่พวกเขาได้ทำนาเพื่อให้เราทุกคนมีเข้ากิน สงสารชาวนาเถอะครับ กินข้าวทุกเม็ดให้หมดให้สมกับที่ชาวนาได้ทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงกายเพื่อการทำนาครับบ ผมก็ขอจากเพียงเท่านี้นะครับ เจอกันใหม่ในเรื่องสุดท้ายยยยยยยยยยยยย

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ K|NG OF K|NG 5

สวัสดีครับบบบบบ 😛

ราชประชานุเคราะห์ 1

ราชประชานุเคราะห์ 2

ราชประชานุเคราะห์ 3

    วันนี้ก็เจอกับผมอีกเช่นเคยยยย สำหรับวันนี้ก็คงจะไม่พ้น(ฮึฮึ…) ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ (อย่าพึ่งเบื่อครับมีอีก 2 เรื่อง) ที่มีชื่อว่า “ราชประชานุเคราะห์” บางคนไม่ทราบว่า “ราชประชานุเคราะห์” แปลว่าอะไร ราชประชานุเคราะห์ มีความหมายว่า พระราชากับประชาชนได้อนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน แล้วคุณทราบหรือไม่ว่า เงินที่ประชาชนได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่ในหลวงนั้น ท่านได้นำเงินนี้ไปทำอะไรท่านนำเงินที่ประชาชนได้ทูลเกล้าฯ แด่พระองค์นั้น พระองค์ได้ทรงนำไปพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองในด้านต่างๆ โดยเฉพาะโครงการพระราชดำริ หรือ พระราชกรณียกิจต่างๆนาๆ เพื่อทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ผาสุข พระองค์ได้ทรงตั้งมูลนิธิต่างๆเพื่อช่วยเหลือประชาชนของท่าน เมื่อยามเกิดภัยพิบัติต่างๆ ท่านก็จะส่งคนในมูลนิธิไปดูแลช่วยเหลือ บริจาคของสิ่งที่เป็นเครื่องยังชีพ แต่ทีสำคัญที่สุดก็คือ การให้กำลังใจคนที่กำลังเดือดร้อน เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้มีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ในวันพรุ่งนี้ พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนของท่านเลย เมื่อผมได้ชมก็ยังทำให้ผมเกิดกำลังใจที่จะตั้งใจเรียนหนังสือ เพราะผมได้ท่านเป็นแรงบันดาลใจ ท่านทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติมาโดยตลอดไม่มีวันหยุดพัก แต่เรายังทำไม่ได้แม้แต่เพียงเสี้ยวหนึ่งของท่าน แล้วทำไมเราถึงจะต้องยอมแพ้ และผมก็คงจะกล่าวแทนคนไทยทั้งประเทศไม่พ้นคำนี้ว่า ผมมีความทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของท่านเป็นอย่างสูง ที่ท่านทรงเมตตาแก่พสกนิกรชาวไทยทุกคน และผมก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกบ้านต้องมีพระบรมฉายาลักษณ์ ของท่านไว้เป็นที่เคารพบูชา และคอยเป็นแรงผลักดันในการสู้ชีวิตของชาวไทยทุกคนครับ และสุดท้ายก็คงไมjพ้นคำว่าาาาา สวัสดีครับ

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ K|NG OF K|NG 4

สวัสดีคร๊าาาาาาาาาาาาาาาบ 😀

แผ่นดินของเรา 1

แผ่นดินของเรา 2

แผ่นดินของเรา 3

    ก็เจอกันอีกแล้วนะครับในวันแรกในการทำงานครับ วันนี้เรื่องที่ผมนำมาเสนอก็คงไม่พ้น ภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติ วันนี้เรื่องที่ผมได้ชมคือ “แผ่นดินของเรา” ครับ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าถ้าใครได้ชมจะได้เหมือนยิ่งกว่าไปนั่งอยู่โรงละครอีกครับ เพราะเรื่องนี้เน้นเป็นละครเพลงมิวสิคเคิล ที่นักแสดงแสดงละครและร้องเพลงแทนการพูดสื่อความหมายโดยการใช้บทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้แก่ ใกล้รุ่ง ลมหนาว ค่ำแล้ว สายฝน Oh I Say และ แผ่นดินของเรา ภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อได้ชมแล้วมีความรู้สึกจรรโลงใจ เพราะเพลงเพราะมากกกกกกกกกกกกกกก นักร้องก็ถ่ายทอดอารมณ์และก็ร้องเพลงออกมาได้ไพเราะมากกกกกกกกกก เช่นเดียวกัน ดูกี่ทีกี่ทีก็ไม่เบื่อ นอกจากเพลงจะเพราะเนื้อหายังมีหลายอารมณ์ หลายความรู้สึกผสมผสานกันในเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็น อารมณ์สนุกสนาน เศร้าสลดเสียใจ โหยหา และความรู้สึกจงรักภักดีและเทิดทูนแด่องค์ราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่ และในเรื่องยังมีการเชื่อมเรื่องราวระหว่างบทเพลงได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก หากใครได้ลองชมจะไม่รู้สึกเสียดายเวลาเรยยยครับ (ไม่เสียตังค์ด้วยแต่เปลืองไฟ 555+) ตัวผมเองประทับใจทุกฉาก ตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่อง แต่ผมก็ยังไม่เลิกเคลิบเคลิ้มในเสียงเพลงพระราชนิพนธ์นะครับ เพราะเพลงเหล่านี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช ทรงมีพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรี คีตศิลป์ ที่ไม่แพ้พระมหากษัตริย์องค์อื่นๆเลยในโลก อยากบอกเป็นครั้งสุดท้ายว่า สุโก้ย!!!!!! ผมก็ฝากไว้แค่นี้ล่ะกันครับบบ เดวเจอกันใหม่นะครับบ

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ K|NG OF K|NG 3

สวัสดีคร๊าบบบบบบบบบบบ 🙂
   ก็เจอกันอีกครั้งนะครับ(เจอกันอีกกนาาาาาน) กับภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติเรื่องที่ 3 ที่ผมได้ชม นั่นก็คือ “คนล่าเมฆ” ครับ คุณเคยมองเมฆมั๊ยครับ แล้วคุณทราบหรือไม่ ว่าเมฆมาจากไหน แล้วใครเป็นคนสร้าง ผมตอบได้เรยครับว่าเมฆสร้างตัวมันขึ้นมาเองไม่มีใครสร้าง แต่สำหรับคนไทยนั่นแล้วผู้สร้างเมฆก็คงเป็น พระเจ้าอยู่หัว พ่อหลวงของเราชาวไทยนั่นเองครับ

พระองค์ได้ทรงศึกษาค้นคว้าสุดยอดในการทำเมฆ เพื่อนำมาแก้ปัญหาวิกฤตการ์ณภัยแล้งในปีพ.ศ. 2542 โดยเริ่มทำที่แรกก็คือ ภาคอีสานของประเทศไทย พระองค์ได้ทรงเล็งเห็นปัญหาสำคัญที่สุดสำหรับความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทย พระองค์ได้ทรงสั่งให้ทีมสร้างฝนหลวงได้ไปทำฝนหลวง ณ ภาคอีสานที่ประสบปัญหาแล้งอย่างหนัก ถึงพระองค์จะไม่ได้ทรงเสด็จไปด้วย แต่พระองค์ก็คอยเป็นห่วงทั้งทีมสร้างฝนหลวงและชาวบ้านที่ขาดแคลนน้ำตลอดพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งเราเลย เมื่อผมได้มาชมภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ ก็ทำให้ผมรู้สึกเข้าจิตเข้าใจคนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดน้ำในการดำรงชีวิตอย่างหนัก ว่าการอยู่โดยไม่มีน้ำนั้นยากลำบากเพียงใดแต่คนที่มีน้ำใช้อย่างสุรุ่ยสุร่ายกลับไม่เคยได้รับรู้ความรู้สึกเช่นนี้ ก็ยังคงใช้น้ำอย่างไม่ประหยัดเปิดทิ้งเปิดขว้าง(เหมือนบ้านทำการประปา –*) หากคุณได้อยู่แบบชาวบ้านที่ขาดแคลนน้ำก็คงจะกระตุ้นจิตสำนึกในการใช้น้ำได้อย่างมากเลยทีเดียว และเรื่องนี้ก็ยังทำให้ผมชื่นชมทีมสร้างฝนหลวงที่ใช้ความเพียรพยายามเพื่อ ในหลวง อย่างที่ในหลวงได้เพียรพยายามในการคิดค้นสูตรการสร้างเมฆเพื่อทำฝนหลวง ดั่งในสุภาษิต ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น และก็คงเหมือนเรื่องพระมหาชนกที่พระมหาชนกได้ใช้ความเพียรพยายามทั้งหมดในการว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน (ทำให้ผมเกิดความพยายามในการทำรีวิวเช่นเดียวกัน 555+ ) และผมก็ไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไมคนไทยทั้งประเทศจึงรักและยอมเสียสละได้เพื่อคนคนเดียวนั่นก็คือ “ในหลวงของเรา” ก็ขอจากกันเพียงเท่านี้นะครับ เจอกันเรื่องหน้าครับ…

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ K|NG OF K|NG 2

 

สวัสดีครับบบบ 😛
     พบกันอีกครั้งสำหรับภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติ ครั้งนี้ผมขอแนะนำตอน “เหรียญของพ่อ” พอได้ชมฉากแรกไม่นานก็เปลี่ยนเป็นเหมือนภาพยนตร์บู๊ Action ล้างผลาญ มีการทำสงคราม สู้รบยิงกัน ทำให้เกือบเกิดโศกนาฏกรรม เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญชาญชัยอันใหญ่หลวงยิ่งหนัก ที่เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ถึงแม้ในสังคมไทยปัจจุบันจะพบเจอคนประเภทนี้ได้น้อย แต่ผมเชื่อว่าต้องมีคนที่กล้าหาญพร้อมที่จะเสียสละเพื่อคนอื่น แต่อย่างน้อยประเทศของเราก็ยังมีพระเจ้าอยู่หัวที่เป็นผู้เสียสละให้แก่ประชาชน ท่านเสียสละความสุขของท่านและห่วงใยพสกนิกรชาวไทย เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยอยู่รอด อยู่อย่างมีความสุข ท่านไม่เคยทอดทิ้งประชาชนของท่านเลย ท่านเป็นห่วงเราอยู่เสมอ ไม่ว่าที่ที่เดือดร้อนนั้นจะอยู่ที่ใดท่านก็จะเสด็จไปบำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้พสกนิกรชาวไทยของท่านมีความเป็นอยู่ที่ผาสุข และท่านยังเป็นทั้งแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนๆคิดดี ทำดี เสียสละ ช่วยเหลือคนอื่น เพราะท่านเป็นแบบอย่างที่ดี พสกนิกรชาวไทยรวมถึงตัวผมเองก็ยินดีปลื้มปิติในพระมหากรุณาธิคุณที่จะหาสิ่งใดเปรียบของท่าน ผมไม่แปลกใจเลยที่จะมีคนสามารถเสียสละชีวิตเพื่อท่านได้…

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ K|NG OF K|NG 1

สวัสดีครับบบบบ
    หลังจากวันพ่อผ่านมาเนิ่นนาน ผมก็พึ่งจะได้ดูภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติที่ท่านอาจารย์ได้แนะนำมา ชุด KING OF KING เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระชนมายุครบ 83 พรรษา โดยมีทั้งหมด 7 เรื่อง ราวที่เกี่ยวกับในหลวงของปวงชนชาวไทย โดยเรื่องแรกที่ผมได้รับชมรับฟัง คือ เรื่องเดียวกัน มีทั้งหมด 4 ตอนครับ ดังต่อไปนี้

 

ภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติ “เรื่องเดียวกัน” Part 1

   เมื่อผมได้เริ่มชมตอนที่ 1 ของตอน “เรื่องเดียวกัน” ตอนแรกผมเกิดความพิศวงงงงวยมากครับ ไม่ทราบว่ากำลังชม ภาพยนตร์จีนกำลังภายในหรือแต่อย่างไร พอดูไปดูมาก็เริ่มเข้าใจว่านั่นคือการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากพวกเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการปลูกฝิ่น ซึ่งการปลูกฝิ่นนี้เป็นอาชีพที่เกษตรกรทางภาคเหนือในอดีตเคยปลูก แต่เนื่องจากฝิ่นเป็นพืชที่เป็นยาเสพติด ผิดกฎหมาย และต้องตัดไม้ทำลายป่าเพื่อลักลอบปลูก จึงต้องหลบๆ ซ่อนๆ กัน แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเห็นความสำคัญของการประกอบอาชีพของเกษตรกรทางภาคเหนือ ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นพวกชนเผ่ากะเหรี่ยง โดยบริเวณนี้ไม่ค่อยเป็นที่สนใจของผู้อื่นมากนัก แต่ในหลวงของเรากลับเสด็จไปเพื่อนำหนทางอาชีพที่สุจริตและถูกกฎหมายไปเผยแพร่ให้คนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นด้วยการ ปลูกสตอออออออออออออ เบอร์รี่ ที่เป็นพืชเมืองหนาวเหมาะกับภูมิอากาศและภูมิประเทศบริเวณนั้น แทนการปลูกฝิ่น ทำให้เกษตรกรเหล่านี้มีหนทางในการทำมาหากินได้อย่างเป็นสุข ไม่เดือดร้อนและไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ จากเจ้าหน้าที่อีกต่อไป

ภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติ “เรื่องเดียวกัน” Part 2

   ต่อมาเป็นตอนที่ 2 ที่ได้กล่าวถึงโครงการหลวงของในหลวงนั่นก็คือ การเลี้ยงโคนม การเลี้ยงโคนมถือเป็นอาชีพพระราชทานที่ทำให้เกษตรกรมีรายได้ และทำให้คนไทยมีนมโคดื่ม ผมเองก็เป็นคนที่ชอบดื่มนม พอได้มาชมภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้แล้วผมก็รู้สึกประทับใจมากที่เราได้มีนมโคดื่มก็เพราะในหลวง ผมเคยได้ยินมาว่า ก่อนที่ท่านจะนำอาชีพเหล่านี้พระราชทานให้แก่เกษตรกรนั้น พระองค์ต้องทรงทดลองในวังของพระองค์ก่อน โดยโครงการเลี้ยงโคนมก็ถือเป็น โครงการหนึ่งในโครงการหลวงสวนจิตรลดา พอพูดถึงโครงการหลวงสวนจิตรลดาผมก็นึกถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ทำจากนม นั่นก็คือ นมอัดเม็ด ทั้งมีประโยชน์ อร่อย แต่กินมากก็ไม่ดีเพราะฝันผุ (หุหุหุ…) และในเรื่องก็ยังได้เห็นภาพประทับใจอีกก็คือ ลูกวัวที่กำลังคลอด ซึ่งเป็นลูกวัวที่น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกมากครับ 🙂

ภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติ “เรื่องเดียวกัน” Part 3

   ต่อไปเป็นตอนที่ 3 น้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการดำรงชีวิตของมนุษย์และของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เพราะน้ำมีประโยชน์ทั้งใช้ดื่มกิน ชำระล้างทำความสะอาด ใช้ในการทำการเกษตร และยังสามารถใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้อีกด้วย เมื่อประชาชนประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงพระองค์ก็ทรงมีพระบรมราชโองการให้สร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดตราด เมื่อมีเขื่อนก็สามารถนำแรงดันจากน้ำไปใช้ในการปั่นกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงได้มีใช้กัน และนอกจากนี้เขื่อนยังมีประโยชน์มากกว่าการผลิตกระแสไฟฟ้า แต่สามารถนำไปใช้ในการเกษตรได้อีกด้วย และอีกประการหนึ่งก็คือการกักเก็บน้ำเมื่อมีน้ำมากกกกก จึงทำให้น้ำในกรุงเทพมหานครน้ำไม่ท่วมเหมือนแต่ก่อน ในฐานะที่ผมเป็นคนกรุงเทพ ตัวผมเองมีความซาบซึ้งในพระกรุณาธคุณอันล้นพ้นของพระองค์ที่คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชนชาวไทยได้มีความสุขกันจนถึงทุกวันนี้

ภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติ “เรื่องเดียวกัน” Part 4

   และนี่้ก็เป็นตอนสุดท้ายของภาพยนตร์สั้น เรื่องเดียวกัน ที่เป็นบทสรุปของโครงการหลวงที่พระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปวางรากฐานให้แก่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้มีอาชีพทำกินที่มั่นคง สามารถหาเลี้ยงตนเองได้ และพระองค์ก็ทรงพัฒนาถิ่นธุรกันดารให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผมคิดว่าประชาชนเหล่านั้นคงรักในหลวงของพวกเขามาก ผมเองก็เช่นเดียวกันครับ ถึงแม้นี้จะเป็นเพียงเรื่องเดียวที่ผมได้ชมแต่มันก็ยิ่งใหญ่มากครับ ยังมีภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติอีก 6 เรื่องรอคุณอยู่ครับ โอกาสหน้าผมจะนำมาฝากครับบบบบบบบบ 😀

ภๅพยนตร์LฉลิมพsะLกียsติ 4

สวัสดีครับบบบ 😛
  

    พบกับผมคนเดิมแต่เรื่องไม่เดิมๆ วันนี้ก็จะขอนำเสนอ ภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติ อีกเรื่องหนึ่งได้รับรางวัลที่ 2 ผมก็เห็นด้วยกับรางวัลครับ เนื้อเรื่องสื่อถึงความหมาย เข้าได้ถึงแก่นเรื่องอย่างแท้จริง โดยการยกตัวอย่างคนพิการ ที่สู้ชีวิต ตอนแรกผมได้ชมก็เห็นว่าเค้าทำอะไรได้ปกติเหมือนคนอื่นทุกอย่าง แต่พอมาประมาณกลางเรื่องนั้นก็มี Key Word ที่บ่งบอกให้ว่าลุงคนนี้เป็นคนพิการทางสายตา ซึ่งก็แสดงให้ว่า คนพิการนั้นก็มีความสามารถ ทำอะไรได้อย่างคนปกติทั่วไป และเป็นคนที่ไม่ย่อท้อต่อความลำบาก พร้อมที่จะเดินต่อไปข้างหน้า ไม่รอคอยวาสนา แต่คนที่ปกติครบ 32 ทุกประการ กลับรอให้บุญพา วาสนาส่ง เจอปัญหาเพียงเล็กน้อยก็ยอมแพ้ไม่คิดที่จะแก้ปัญหา คิดสั้น สุดท้ายก็พบกับจุดจบของชีวิตเหมือนเป็นสิ่งที่ไร้ค่า และในเรื่องก็ยังมีคำพูดที่ประทับใจของชายตาบอดที่ว่า ถึงเราจะมองไม่เห็นในหลวง แต่ในหลวงยังคงมองเห็นเราทุกคนเสมอ โดยส่วนตัวผมคิดว่า การที่ในหลวงมองเห็นเรานั้นก็หมายถึง การที่ในหลวงเห็นความลำบากทุกข์ยากของพี่น้องปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทย ในหลวงได้วางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ทุกหนทุกแห่ง ให้ประชาชนพ้นจากทุกข์ พระองค์นับเป็นมหากษัตริย์ทีประเสริฐสุดในโลก
    ใครที่ชมภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรตินี้แล้วก็อย่าลืมนำไปคิดทบทวน และนำไปปรับใช้ในการดำรงชีวิตของตนเองในทางที่ถูกที่ควรด้วยนะครับ เพราะทุกเรื่องล้วนมีคติสอนใจแฝงอยู่ 😀

Previous Older Entries